วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การเติบโตอย่างครบบริบูรณ์(Holistic growth)


คนยิวจะคิดทุกอย่างเป็นองค์รวม แต่คนต่างชาติคิดแบบแยกส่วนกัน ร่างกายเป็นส่วนที่บาป วิญญาณเป็นส่วนที่ดี ทำให้หลายคนสอนเรื่องการเติบโตฝ่ายวิญญาณแบบไม่ครบถ้วน

พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย (ลูกา 2:52)

พระเยซูทรงเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในทุกๆ ด้านของชีวิต ไม่ใช่แค่ด้านใดด้านหนึ่ง อย่างที่ คริสเตียนบางกลุ่มสอนกัน บางคนอาจแย้งว่าก็เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่พระคัมภีร์บอกชัดเจนว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงดำเนินชีวิตเหมือนมนุษย์ธรรมดา และต้องพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นแบบอย่างให้เราทำตาม

จากลูกา 2:52 สามารถกล่าวได้ว่าพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้เราเติบโตในด้านต่างๆเช่น
ก. ด้านความฉลาด และมีความจำที่ดี หรือ IQ (Intelligence quotient)
ข. ด้านความสามารถ หรือสติปัญญาจากพระเจ้า (พรสวรรค์สำหรับคนไม่เชื่อ) AQ (Ability quotient)
ค. ด้านสุขภาพ หรือ HQ (Health quotient)
ง. ด้านฝ่ายวิญญาณ (รู้จักกฎเกณฑ์และพระวจนะของพระเจ้า) หรือ MQ (Morality quotient)
จ. ด้านสังคม หรือ SQ (Social quotient)
ฉ. ด้านอารมณ์ความรู้สึก หรือ EQ (Emotional quotient)

ของประทานจากพระเจ้าสามมิติ

ในพระธรรม 1โครินธ์ 12: 5-7 ในภาษาเดิมจะสามารถสรุปได้ดังนี้

- ของประทานมีต่างๆ กัน แต่มีพระวิญญาณองค์เดียวกัน
- งานรับใช้มีต่างๆกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน
- การกระทำหรือ ภาระใจในการกระทำมีต่างๆ กัน แต่มีพระเจ้าองค์เดียวกัน
เนื่องจากภาษาไทยอาจไม่ได้ใช้คำที่เฉพาะเจาะจงทำให้เข้าใจยากบ้าง แต่ในภาษาเดิมนั้นจะเข้าใจได้ดังนี้
-ของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์มีต่างกัน แต่มาจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

-งาน รับใช้ หมายถึงการรับใช้พระกายของพระคริสต์ในส่วนอื่นๆ หรืออาจพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ การเสริมสร้างซึ่งกันและกัน และรับใช้บรรดาผู้เชื่อตามของประทานที่มีต่างกัน แต่มาจากพระวิญญาณองค์เดียวกัน และภาระใจในการกระทำสิ่งต่างๆ(นิสัย)นั้นแตกต่างกัน แต่มาจากพระเจ้าพระบิดาองค์เดียวกัน

เพื่อผู้อ่านจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น ผมขออธิบายถึงของประทานจากพระเจ้าตรีเอกานุภาพดังนี้

ก. ของประทานจากพระเจ้าพระบิดา โรม 12. 6- 8

เป็นของประทานแห่งการทรงสร้าง พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทุกคนตามพระฉายาของพระองค์ (ปฐก.1) เมื่อ พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนหมายถึงทั้งผู้ที่เชื่อ และคนที่ไม่เชื่อทุกคนในโลกนี้ พระองค์ทรงสร้างเขา และใส่บุคลิกให้แต่ละคนมาด้วย ของประทานนี้เป็นของประทานที่พระเจ้าพระบิดามอบให้มนุษย์ทุกคนในโลกทั้งผู้ที่เชื่อ และ ผู้ที่ยังไม่เชื่อ ความแตกต่างกันระหว่างผู้ที่เชื่อ กับผู้ที่ยังไม่เชื่อ คือผู้ที่ยังไม่เชื่อนั้นจะใช้ของประทานนี้เพื่อตัวเองและเพื่อซาตาน เนื่องจากมนุษย์ทุกคนตกอยู่ภายใต้อำนาจของความบาปและของซาตาน ส่วน ผู้ที่ได้รับการไถ่แล้วนั้นเขาจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้นในการเจิมของของประทานที่ตัวเองมีเพื่อพระเจ้า และแผ่นดินของพระองค์ หมายถึงเพื่อประโยชน์ของผู้เชื่อคนอื่นๆ
ของประทานนี้มีชื่อเรียกต่างกัน เช่นของประทานแห่งการไถ่ เพราะต้องไถ่โดยกางเขนเท่านั้นถึงจะสามารถใช้การเพื่อพระเจ้าได้ บางครั้งเรียกว่าของประทานแห่งการทรงสร้างจากพระบิดา บางครั้งเรียกว่าของประทานแห่งภาระใจ และบางครั้งอาจเรียกเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ว่าของประทานแห่งบุคลิกภาพนั่นเอง แสดงว่าของประทานนี้จะให้เรารู้ว่าเรามีนิสัย และบุคลิกอย่างไร

ของประทานนี้สามารถแบ่งออกเป็น 7 อย่าง แต่ละคนมีอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ (ผมจะกล่าวถึงแบบย่อๆ นะครับ)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้เผย (ตรงไปตรงมา)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้ปรนนิบัติ(ชอบปรนนิบัติรับใช้คนอื่น)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบครู(มีเหตุมีผลไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้ตักเตือน(เข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่าย และไม่ชอบพูดตรงๆ)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้ให้(มีมุมมองทางด้านธุรกิจที่แตกต่าง และคมชัดกว่าคนอื่น)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้ครอบครอง(มีความสามารถในการจัดการสูง)
- ของประทานบุคลิกภาพแบบผู้เมตตา(มีความเมตตาสูง)

ข. ของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ 1โครินธ์12: 7-11

ของประทานนี้ถ้าจะให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ต้องกล่าวว่าเป็นของประทานแห่งการสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ หมายถึงผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่จะมีของประทานนี้ และจุดประสงค์ของของประทานนี้ ก็เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของคริสตจักร หมายความว่าพระวิญญาณจะสำแดงน้ำพระทัยของพระองค์ เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น หรือพระกายของพระคริสต์ และบ่อยครั้งของประทานนี้พระวิญญาณจะสำแดงเพื่อเป็นการยืนยันว่าพระเยซูทรง เป็นพระเจ้า
การสำแดงของของประทานนี้ สามารถแบ่งออกเป็นสองอย่างคือ

- ผู้เชื่อทุกคนจะสามารถมีทั้ง 9 อย่าง นี้ ได้ตามแต่ความต้องการ และน้ำพระทัยของพระวิญญาณ เช่น วันนี้นาย ก วางมือรักษาโรคได้แต่พรุ่งนี้เขากลับเผย และวันต่อไปเขาอาจทำการอัศจรรย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเผยได้ทุกคน หรือทำการอัศจรรย์ได้ทุกครั้ง

- ผู้เชื่อแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของของประทานนี้บางอย่าง เช่น ถึงแม้เขาจะทำได้ทั้ง 9 อย่าง แต่เขาจะมีบางอย่างเท่านั้นที่ทำบ่อยๆ และเป็นเอกลัษณ์ของเขา ตัวอย่างเช่น เผยบ่อยๆ จนรู้ว่าคนนี้มีของประทานการเผยที่โดดเด่น

ค. ของประทานจากพระเยซู หรือของประทานแห่งการเป็นผู้นำ (เอเฟซัส 4.11-12)

ไม่ใช่ผู้เชื่อทุกคนจะมีของประทานนี้ แต่จะมีบางคนเท่านั้น ที่พระเจ้าได้เรียกให้มาเป็นผู้นำ
ของ ประทานนี้เรียกว่าของประทานแห่งการเป็นผู้นำ หรือของประทานพันธกรทั้งห้านั่นเอง ซึ่งเป็นของประทานจากองค์พระเยซูที่มอบให้แก่พระกายของพระองค์ โดยให้บางคนเท่านั้นที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ (เป้าหมายของของประทานนี้เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระเยซูให้เติบโตในการรับใช้) หัวใจของของประทานนี้คือ การเตรียม(สอน หรืออบรม) ธรรมมิกชน หรือผู้เชื่อทุกคนของพระองค์ให้รับใช้พระเจ้าตามของประทาน เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้นในสิ่งที่พระเจ้าต้องการ
เราต้องเข้าใจก่อนว่า ผู้ที่เชื่อทุกคน คือผู้รับใช้พระเจ้า ไม่ใช่ผู้นำ หรือผู้รับใช้เต็มเวลา สำหรับผู้ที่ถูกเรียกให้มีของประทานพันธกรทั้งห้านั้น คือผู้ที่เป็นแบบอย่างในการรับใช้ และเป็นผู้ฝึก สอน และให้การอบรมแก่ผู้ที่เชื่อให้รับใช้พระเจ้าตามของประทาน ของประทานนี้มีความสำคัญเหมือนกัน และเท่าเทียมกัน โปรดจำไว้ว่าของประทานนี้ไม่ใช่ตำแหน่งแต่เป็นของประทาน เมื่อกล่าวว่าเป็นของประทาน ความหมายคือทุกของประทานใน พันธกรทั้งห้านี้มีความสำคัญที่เท่ากัน และเราต้องเข้าใจอีกว่าไม่ใช่ผู้เชื่อทุกคนจะมีของประทานพันธกรทั้งห้า ในเอเฟซัสบทที่ 4:11-12 นี้ แต่มีเพียงบางคนในคริสตจักรที่ถูกเรียกอย่างเฉพาะเจาะจงให้มีของประทานพันธกรทั้งห้าเท่านั้น
ผม ได้พูดถึงของประทานนี้อย่างละเอียดในบทความที่ผ่านมาแล้ว ในที่นี้ผมจะไม่พูดซ้ำอีก แต่จะสรุปให้เห็นว่าของประทานของการเป็นผู้นำนั้น มี 5 อย่างคือ
- อัครทูต
- ผู้เผยพระวจนะ
- ครู(อาจารย์)
- ผู้ประกาศ
- ศิษยาภิบาล

เขียนโดย simon sainasith

ผู้นำคริสตจักรบ้านแห่งพระคุณรังสิต