วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คุณค่าแห่งรัก







คุณค่าแห่งรัก

         

คำว่า
"รัก"
คงไม่มีใครไม่รู้จัก
ความรักนี้มีอยู่ตั้งแต่โลกถูกสร้าง
ความรักมีอยู่ในคนทุกเพศทุกวัย
แต่คำจำกัดความของคำว่า
"รัก"
ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับวัยและประสบการณ์ที่มีเกี่ยวกับคำๆนี้

สำหรับวัยรุ่นหรือหนุ่มสาวนั้นเป้าหมายของความรักก็คือการที่จะได้คนที่หมายปองมาครอง
มาเป็นแฟน
ส่วนคนที่แต่งงานแล้วก็มีเป้าหมายที่จะถนอมและรักษาชีวิตรักให้มั่นคงและยาวนาน

แต่สิ่งเหล่านี้จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทัศนคติของเราที่มีต่อคำว่า
"รัก"
เราให้คุณค่าของคำๆนี้มากน้อยแค่ไหน?
บางคนเห็นความรักเป็นแค่ของเล่น
ใช้หลอกผู้หญิง
บางคนจริงจังมากจนหากไม่ได้มาครองจะต้องฆ่าตัวตาย
แต่จริงๆความรักไม่ใช่การให้ได้มาซึ่งบางอย่าง
แต่เป็นการให้ออกไปต่างหาก

ถ้าความรักไม่มีการเสียสละและอดทนนาน
ก็ไม่มีความหมาย













         

แล้วพระคัมภีร์พูดถึงความรักอย่างไร?
"
ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้
ความรักไม่อิจฉา
ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง
ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
ไม่ฉุนเฉียว
ไม่ช่างจดจำความผิด
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ
และมีความหวังอยู่เสมอ
และทนต่อทุกอย่าง
ความรักไม่มีวันสูญสิ้น
"
1
โครินธ์
13:4-8
         
พระคัมภีร์ตอนนี้ได้กล่าวถึงความหมายของคำว่ารักไว้อย่างครบถ้วน
และเราทุกคนที่เป็นคริสเตียนเราต่างรู้ถึงคุณค่าของความรักนี้ดี
แต่หลายครั้งที่เราพยายามมอบความรักนี้ให้ผู้อื่น
เรากลับถูกปฏิเสธ
กลับถูกมองข้ามไป
ที่กลุ่มเซลล์ผมเคยเล่นเกมๆหนึ่ง
คือให้ทุกๆคนหยิบของที่คิดว่ามีค่าที่สุดที่ติดตัวอยู่ในตอนนั้นออกมาวางไว้ตรงกลาง
แล้วให้แต่ละคนบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึงคิดว่าสิ่งนั้นถึงมีคุณค่ากับเราที่สุด
หลังจากนั้นให้เราทุกคนหยิบของที่อยู่ตรงกลางนั้นที่เราคิดว่ามีค่ากับเราน้อยที่สุดออกมา
แล้วให้แต่ละคนให้เหตุผลว่าทำไมเราถึงคิดว่าสิ่งที่เราหยิบมานั้นไม่ค่อยมีค่าสำหรับเรา




         
เช่นกัน
ความรักของเราที่เราคิดว่ามีค่าที่สุด
คนอื่นอาจจะมองไม่เห็นคุณค่าของมัน
ความรักที่ว่านี้ไม่ใช่เฉพาะเพียงแต่ความรักฉันท์หนุ่มสาวเท่านั้น
แต่รวมไปถึงความรักแบบเพื่อนหรือแบบพี่น้องในพระคริสต์ที่รักและห่วงใยกัน
เพราะบางคนอาจจะมองความรักแค่เปลือกภายนอกที่ห่อหุ้มอยู่
ไม่ว่าจะเป็น
หน้าตา ฐานะ
อายุ ระดับการศึกษา
ฯลฯ
แต่อย่างไรก็ตามอย่าให้เราผิดหวังจนทำให้ความรู้สึกที่ดีที่มีให้กันเป็นความรู้สึกในด้านลบ
ให้เรายังคงรักษาความรู้สึกดีๆนี้ไว้
เพราะการให้ก็เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ

         

พระเยซูคริสต์เองก็รู้จักความหมายและคุณค่าของความรักนี้ดี
และเช่นเดียวกัน
พระองค์ก็ทรงเข้าใจว่าการถูกปฏิเสธนั้นเป็นอย่างไร
พระองค์ทรงรักเราทุกคนมากจนกระทั่งยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย
ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่คนๆหนึ่งจะให้อีกคนได้

เพราะเป็นการให้หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่มี
แม้มนุษย์บางคนจะไม่เห็นคุณค่า
คิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่พระองค์ก็ยังคงรักเราต่อไปไม่เสื่อมคลาย

และเพราะการที่พระองค์ยังทรงรักเราแบบไม่เสื่อมคลายนี่แหละ
ทำให้เราบางคนยอมจำนนและกลับใจ

เพราะถ้าพระองค์ทรงท้อและหมดรักเรา
วันนี้เราก็คงไม่มีโอกาสรู้จักพระองค์และไม่รู้ว่าความรักที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น